วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สามทริคพิชิต “ท้อ” รับมือสอบหมอในอีกไม่กี่เดือน


          เชื่อว่าหลายๆคนก็เริ่มกังวลกับการสอบ กสพท. ในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว ซึ่งเอาจริงๆมันก็น่ากังวลนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็นระเบียบการรับสมัครที่ปีนี้เปลี่ยนแปลงไปเยอะเลย มีสถาบันใหม่ๆเพิ่มเข้ามาเยอะ จนจัดอันดับไม่ถูกเลย แต่เมื่อกลับมาดูเนื้อหาและแนวข้อสอบแล้วก็เยอะจนหาเวลาอ่านกันไม่ได้เลยทีเดียว
          แน่นอนพอมีอะไรเยอะๆเข้าเราก็จะเริ่มท้อ สิ่งที่ตามมาที่น่ากลัวที่สุดก็คือเราจะท้อจนไม่อยากทำเชี่ยอะไรแล้ว และหยุดทุกอย่างไปดื้อๆเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่สุดเลยที่ใครซักคนต้องล้มเลิกความตั้งใจลงไปเพราะท้อแบบนี้
          วันนี้พี่ๆ ก็เลยเอาเทคนิคที่คนขี้เกียจแบบพี่ใช้ปลุกตัวเองให้ลุกขึ้นมาทำงานอ่านหนังสือเวลาท้อๆมาเล่าให้ฟังค่ะ
1. ช่างแม่ง (ปล่อยวาง)
          สาเหตุนึงของความท้อก็คือ เรารู้สึกแย่กับเวลาที่ผ่านมาที่เรามีสิ่งที่ควรทำแล้วไม่ได้ทำ หรืออาจจะรู้สึกพลาดอะไรหลายๆอย่างไป อย่างนึงที่น้องต้องทำนั่นก็คือการปล่อยวางอดีตครับ เราไม่สามารถทำทุกอย่างให้เพอร์เฟ็กต์ได้ก็ปล่อยๆมันไปบ้าง
          อย่างที่สองที่เราต้องปล่อยวางคืออนาคตครับ หัดมีโมเมนต์ช่างแม่งบ้าง เราไม่สามารถทำทุกอย่างได้หมดในเวลาจำกัด เลือกในสิ่งที่จำเป็น เลือก”เท”ในสิ่งที่จำเป็นน้อยกว่า และช่างมันไป
2. ยัด (เรียนเพื่อสอบ)
          แน่นอนว่าหลายๆคนตอนเวลาเหลือเยอะๆก็จะจินตนาการเรียนแบบอุดมคติไว้สวยหรู เรียนช้าๆ สม่ำเสมอ มีวินัย ซึ่งปรากฎว่าน้องทำไม่ได้ไง
          ดังนั้นพอเวลามันกระชั้นชิดแล้ว ทำไงได้ล่ะ เราก็ต้องเรียนในแบบที่เราอาจจะหนักขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะเรียนพิเศษ หรืออ่านเองก็ตาม อ่านเฉพาะส่วนที่สำคัญหรือออกสอบ
          อย่างฟิสิกส์ที่ดูเหมือนเป็นวิชาแห่งความเข้าใจ แต่พอจะสอบแล้วเห็นแนวข้อสอบออกซ้ำๆ ไม่เข้าใจก็ท่องวิธีทำไปทั้งเซ็ตแล้วไปปรับเอาก็มี อย่างข้อสอบฟิสิกส์วิชาสามัญที่พี่ได้ร้อยเต็มก็ยอมรับนะคะว่ามีบางส่วนที่พี่ท่องวิธีทำแนวโจทย์ไปทั้งข้อเหมือนกัน
3. คิดถึงเป้าหมาย และสิ่งที่เราได้พยายามทำมาแล้ว
          การตั้งใจทำอะไรใหญ่ๆอย่างการสอบหมอแน่นอนว่ากว่าจะสำเร็จออกดอกออกผลก็ย่อมใช้เวลานาน การที่เราคอยบอกตัวเองอยู่เสมอว่าเราเหนื่อยไปเพื่ออะไร เราเดินมาไกลแค่ไหนแล้ว ก็ช่วยทำให้เรามีกำลังใจเพิ่มขึ้นได้คค่ะ
          อีกนิดนะคะสำหรับใครที่รู้สึกท้อ น้องเป็นคนพิเศษตั้งแต่น้องตั้งใจอยากเป็นหมอแล้วค่ะ ลองนึกถึงช่วงที่เตรียมสอบแล้วคุณพ่อคุณแม่ภาคภูมิใจ เข้ามาให้กำลังใจ เข้ามาสนับสนุนการเรียนพิเศษ ทุกความพยายามและตั้งใจของน้องมีคุณค่าและสวยงามอยู่แล้วค่ะ น้องแค่ต้องพยายามต่อไปเท่านั้นเองค่ะ
อ้างอิง พี่แม็ทธิว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น