วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านรอบสัมภาษณ์ Admissions 2559 น้องสอบติดแบบ 100% แล้วน้าา ‪#‎dek59‬ ‪#‎admissions59‬ ‪#‎สอบติด‬





ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา

Admission 2559


เข้าสู่หน้าประกาศผล >> http://admission.cuas.or.th/passintv59/

















รับตรง 60 ม.เชียงใหม่ โครงการสอบคัดเลือกนักเรียนในเขตพัฒนาภาคเหนือ (โควตาภาคเหนือ)





          มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประกาศรับสมัครนักเรียนที่ศึกษาในเขตพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน เท่านั้น เข้าศึกษาผ่าน โครงการสอบคัดเลือกนักเรียนในเขตพัฒนาภาคเหนือ (โควตาภาคเหนือ) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปีการศึกษา 2560 รายละเอียดดังนี้


ปฏิทินการสอบคัดเลือก

        วัน เดือน ปี                      กิจกรรม


วันที่ 15 - 23 สิงหาคม 2559
นักเรียนดำเนินการสมัครทาง Internet เว็บนี้ (เริ่มเวลา 09.00 น.)
วันที่ 24 - 26 สิงหาคม 2559

นักเรียนพิมพ์ใบสมัคร ทาง Internet ทาง www3.reg.cmu.ac.th/ugradapply และนำไปส่งหน่วยรับสมัครของโรงเรียน
วันที่ 29 - 31 สิงหาคม 2559 โรงเรียนส่งใบสมัครและเอกสารให้มหาวิทยาลัย
วันที่ 14 ตุลาคม 2559

ประกาศเลขที่นั่งสอบ / ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบข้อเขียน/จำนวนโควตาที่จัดสรรให้ และผู้สมัครพิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบทาง www.reg.cmu.ac.th
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2559
ประกาศผังห้องสอบ ผู้สมัครพิมพ์ผังห้องสอบของตัวเองเพื่อใช้ในการเข้าห้องสอบ
วันที่ 10 -11 ธันวาคม 2559
ดำเนินการสอบคัดเลือกตามตารางสอบที่มหาวิทยาลัยกำหนด
วันที่ 14 ธันวาคม 2559
สอบวิชา 17 ความรู้ทั่วไปและทักษะด้านศิลปะการดนตรีและการแสดง (ภาคปฏิบัติ)
วันที่ 9 มกราคม 2560
ประกาศผลการสอบข้อเขียนทาง  www.reg.cmu.ac.th
วันที่ 15 มกราคม 2560
ทดสอบความพร้อมและตรวจร่างกาย คณะแพทยศาสตร์ โครงการแพทย์ชนบท/ODOD
วันที่ 28-29 มกราคม 2560


สอบสัมภาษณ์ ตรวจร่างกาย เอกซเรย์ผู้สอบผ่านข้อเขียน ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทุกคณะ และโครงการร่วม
แพทย์ชนบท/ODOD/ชาวเขา/เรียนดี
มหาวิทยาลัยจะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมในประกาศผลการสอบข้อเขียน
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560
ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบสัมภาษณ์ทาง www.reg.cmu.ac.th
วันที่ 25-28 เมษายน 2560
นักเรียนยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผ่านระบบ Clearing House  ทาง website  www.cuas.or.th
24 พฤจิกายน 2560

ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการยืนยันสิทธิ์ในระบบ Clearing House และมีสิทธิ์เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทาง Internet www.reg.cmu.ac.th

ประมาณปลายเดือนกรกฎาคม 2560

รายงานตัวขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา

หมายเหตุ ปฎิทินนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

ขั้นตอนการสมัครผ่านระบบอินเตอร์เน็ต

การสมัครทางอินเตอร์เน็ต (เปิดระบบรับสมัครตั้งแต่วันที่ 15 - 23 สิงหาคม 2559 ) 
เฉพาะนักเรียนที่ศึกษาในเขตพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ตั้งแต่ ม. 4 - 6 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน เท่านั้น
  1. สำหรับผู้ที่เข้าระบบครั้งแรก ให้ สร้างบัญชีผู้สมัครใหม่
  2. สำหรับผู้ที่สร้างบัญชีผู้ใช้แล้ว ให้ ลงชื่อเข้าใช้งาน
เมื่อเข้าสู่ระบบไปแล้ว จะแบ่งการสมัครออกเป็น 3 โครงการ ประกอบด้วย

1. โควตาภาคเหนือ 

มีขั้นตอน 3 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1
  1. เลือกกลุ่มวิชา ของคณะ/สาขา
  2. เลือกคณะ/สาขา ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เลือกได้ไม่เกิน 2 อันดับ (ค่าสมัคร 500 บาท)
  3. เลือกคณะ/สาขา ของมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน 15 แห่ง ประกอบด้วยมหาวิทยาลัย 
    • มหาวิทยาลัยพายัพ
    • มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น
    • มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่
    • มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
    • มหาวิทยาลัยขอนแก่น
    • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
    • มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
    • มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
    • มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
    • มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย
    • มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
    • มหาวิทยาลัยแม่โจ้
    • มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
    • มหาวิทยาลัยศรีปทุม
    • มหาวิทยาลัยหาดใหญ่
  4. โดย 1 มหาวิทยาลัยสามารถเลือกได้ไม่เกิน 2 อันดับ (ค่าสมัครมหาวิทยาลัยละ 100 บาท)
ขั้นตอนที่ 2
  • พิมพ์เอกสารการสมัคร (พิมพ์เอกสารการสมัครฉบับจริง ได้ ในวันที่ เป็นต้นไป)
ขั้นตอนที่ 3
  • ขอความร่วมมือแสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้ระบบรับสมัครผ่านอินเตอร์เน็ต เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาปรับปรุงระบบต่อไป

2. โครงการการเรียนดี (สมัครพร้อมโควตา) 




รับนักเรียนผลการเรียนดีใน 17 จังหวัดเขตพัฒนาภาคเหนือ เข้า 3 คณะ

คณะพยาบาล 
- รับ ม.6 แผนการเรียน วิทย์-คณิต 
- เกรดเฉลี่ย 4 เทอม ไม่ต่ำกว่า 3.50

คณะบริหารธุรกิจ สาขาการบัญชี 
- รับ ม.6 แผนการเรียน วิทย์-คณิต และ ภาษาต่างประเทศ 
- เกรดเฉลี่ย 4 เทอม ไม่ต่ำกว่า 3.25
คณะเทคนิคการแพทย์ 4 สาขาวิชา
- รับ ม.6 แผนการเรียน วิทย์-คณิต
มีขั้นตอน 2 ขั้นตอน ตามช่วงเวลาที่กำหนด ดังนี
ขั้นตอนที่1
      เลือกโครงการเรียนดี (ค่าสมัครโครงการละ 200 บาท) ผู้สมัครโปรดศึกษารายละเอียดโครงการก่อนการสมัคร คลิกที่นี่เพื่อศึกษาเพิ่มเติม
      หมายเหตุ:- หากนักเรียนสมัครโครงการเรียนดีแล้ว จะไม่มีสิทธิ์สมัครโครงการแพทย์ชนบท/ODOD
ขั้นตอนที่ 2 
      พิมพ์เอกสารการสมัคร ส่งเอกสาร พร้อมชำระเงินค่าสมัครที่ครูผู้รับผิดชอบในโรงเรียนของผู้สมัคร


3. โครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท (CPIRD), ODOD (สมัครพร้อมโควตา)


     - รับนักเรียนในเขตพัฒนาภาคเหนือ 8 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง แพร่ น่าน พะเยา ลำพูน และ แม่ฮ่องสอน
     - รับ ม.6 เกรดเฉลี่ย ม.4 และ ม.5 ไม่ต่ำกว่า 3.25

รับสมัคร : 15 - 23 สิงหาคม 2559 (สมัครทาง Inernet)
เกณฑ์การคัดเลือก : ผลคะแนนสอบคัดเลือกนักเรียนในเขตพัฒนาภาคเหนือ
** โครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน (ODOD) >>คลิก<<
** โครงการแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท (CPIRD) >>คลิก<<
ขั้นตอนที่ 1
     เลือกโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท (CPIRD), ODOD (สมัครพร้อมโควตา) (ค่าสมัครโครงการละ 200 บาท) ผู้สมัครโปรดศึกษารายละเอียดโครงการก่อนการสมัคร 
     หมายเหตุ:- หากนักเรียนสมัครโครงการเรียนดีแล้ว จะไม่มีสิทธิ์สมัครโครงการแพทย์ชนบท/ODO
ขั้นตอนที่ 2
     พิมพ์เอกสารการสมัคร ส่งเอกสาร พร้อมชำระเงินค่าสมัครที่ครูผู้รับผิดชอบในโรงเรียนของผู้สมัคร


ตารางสอบ

          ผศ.ทศพร พิชัยยา ผู้อำนวยการสำนักทะเบียนและประมวลผล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยภายหลังการหารือกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้ข้อสรุปว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จะคัดเลือกนักเรียนในเขตพัฒนาภาคเหนือ หรือโควตาภาคเหนือ ปีการศึกษา 2560 โดยจะดำเนินการจัดสอบเองเหมือนที่เคยปฏิบัติมา ซึ่งคาดว่าจะมีการจัดสอบในเดือนธันวาคม 2559 ก่อนการสอบวิชาสามัญ 9 วิชา

          สำหรับการคัดเลือกโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและชุมชนนั้น ยังคงมีอยู่เช่นเดิม โดยใช้คะแนนวิชาความถนัดทั่วไป หรือ GAT และความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ หรือ PAT ครั้งที่ 1/2560 และคะแนนวิชาสามัญ 9 วิชา ยกเว้นโครงการรับนักเรียนที่มีผลการเรียนดี คณะแพทยศาสตร์ และโครงการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คาดว่าจะใช้รูปแบบเดิมในการคัดเลือก

          ทั้งนี้ ในส่วนกำหนดการรับสมัคร และรูปแบบการคัดเลือกนักเรียนและบุคคลเพื่อเข้าศึกษาต่อปีการศึกษา 2560 มหาวิทยาลัยจะประกาศให้ทราบภายในต้นเดือนกรกฎาคม 2559





































ข้อควรจำ

  1. โปรดอ่านประกาศรับสมัครและขั้นตอนการสมัครให้ละเอียด หากมีข้อสงสัย ให้สอบถามที่ สำนักทะเบียนและประมวลผล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทร.053-943071 ต่อ 108, 131 - 134 ในวัน และเวลาราชการ
  2. วิธีการสมัครสอบประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ผู้ที่ประสงค์จะสมัครสอบต้องดำเนินการตามขั้นตอนให้ครบถ้วน ตามวัน เวลา ที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้
  3. เลขประจำตัวประชาชน, ชื่อ - นามสกุล ของผู้สมัครจะใช้ในการยืนยันตัวบุคคล ทั้งในขั้นตอนการสมัครสอบและการเข้าสอบ ฉะนั้นจึงต้องกรอกข้อมูลให้ถูกต้อง...คลิกที่นี่ ...เพื่ออ่านรายละเอียดขั้นตอนการสมัคร
  4. ผู้สมัครต้องกรอกข้อมูล โรงเรียนที่เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ชั้น ม.4-6 ให้ถูกต้อง
  5. ตั้งแต่วันที่ ผู้สมัครจะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลอันดับการเลือกได้ แต่ยังสามารถแก้ไขข้อมูลส่วนตัวได้




วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559

มาแล้วค่ะ รับตรง 60 คณะแพทยศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์





         สวัดดีค่ะ น้องๆ ทุกคน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
 เปิดรับสมัครนักเรียนเข้าศึกษาผ่านรับตรง 2560  โดยมีรายละเอียดย่อย 5 โครงการ แบ่งเป็นทั่วประเทศ(ผ่าน กสพท.) โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท และโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน มีรายละเอียดดังนี้ เลยนะคะ

ปฏิทินโครงการ




โครงการที่รับเข้าศึกษาและจำนวนรับ

          * โครงการเร่งรัดการผลิตแพทย์ของคณะแพทยศาสตร์ (ผ่านระบบ กสพท.60) จำนวน 64 ที่นั่ง
          * โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบทและโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน
                    -  ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก รพ.สระบุรี จำนวน 30 คน
                    -  ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก รพ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 30 คน
                    -  ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จำนวน 15 คน
                    -  ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก รพ.พุทธโสธร จำนวน 30 คน









คุณสมบัติผู้สมัคร

1.รับผ่านระบบ กสพท.60

          1.1 กำลังศึกษาหรือสำเร็จการศึกษาระดับชั้น ม.6 หรือเทียบเท่า
          1.2 มีคุณสมบัติตรงตารมที่ กสพท.กำหนด

2. โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท

          2.1 มีสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ (นับถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2560)
          2.2 ผู้สมัครต้องมีภูมิลำเนา และ บิดาหรือมารดาหรือผู้ปกครองตามกฎหมายต้องมีภูมิลำเนา อยู่ในจังหวัดที่สมัครต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปีติดต่อกันนับถึงวันที่ปิดรับสมัคร โดยมีทะเบียนบ้านเป็นหลักฐาน (หากบิดาหรือมารดาที่เป็นข้าราชการ ต้องโยกย้ายให้มีเอกสารยืนยันการโยกย้าย)
           2.3 ผู้สมัครต้องเป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายวิทย์และต้องศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายตลอดหลักสูตรในเขตรับผิดชอบของคณะ แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในแต่ละศูนย์แพทย์ฯ เท่านั้น ไม่รับสมัครข้ามเขตพื้นที่
               ภาคกลาง (ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก รพ.สระบุรี) จังหวัดสระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง ปทุมธานี
               ภาคใต้ (ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก รพ.สุราษฎร์ธานี และศูนย์แพทยศาสตรศึกษา ชั้นคลินิก รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์) จังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง
               ภาคตะวันออก (ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก รพ.พุทธโสธร) จังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว นนทบุรี
            2.4 รับเฉพาะสายสามัญเท่านั้น (ไม่รับผู้สอบเทียบชั้น หรือจากศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน)
            2.5 ต้องศึกษารายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 : มาตรฐานการเรียนรู้ชั้น ม.4 – ม.6 ครบตามเกณฑ์ที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด มีรายละเอียดดังนี้
                 -  กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ต้องเรียนรายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติมทาง วิทยาศาสตร์รวมกันไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต
                 -  กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ต้องเรียนรายวิชาพื้นฐาน และรายวิชาทาง คณิตศาสตร์รวมกันไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต
                 -  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ต้องเรียนรายวิชา พื้นฐานและ รายวิชาเพิ่มเติมภาษาอังกฤษรวมกันไม่น้อยกว่า 9 หน่วยกิต

3. โครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน

          3.1 มีสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ (นับถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2560)
          3.2 ผู้สมัคร และ บิดาหรือมารดาหรือผู้ปกครองตามกฎหมาย ต้องมีทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปีติดต่อกันนับถึงวันที่ปิดรับสมัคร (หากบิดาหรือมารดาที่เป็นข้าราชการ ต้องโยกย้ายให้มีเอกสารยืนยันการโยกย้าย) และต้องไม่ อยู่ในเขตอำเภอเมือง ยกเว้น ผู้สมัครสอบจังหวัดสระแก้ว และจังหวัดระนอง
          3.3 ผู้สมัครต้องเป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 
          3.4 ศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายตลอดหลักสูตรในจังหวัดที่ตนมีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านเท่านั้น ไม่รับสมัครข้ามจังหวัด
          3.5 เขตพื้นที่ที่กำหนด มีดังนี้ค่ะ
                - ภาคกลาง (ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก รพ.สระบุรี) จังหวัดสระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง
                -  ภาคใต้ (ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก รพ.สุราษฎร์ธานี)  จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระนอง
                -  ภาคใต้ (ศูนย์แพทยศาสตรศึกษา ชั้นคลินิก รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์) จังหวัดชุมพร
                -  ภาคตะวันออก (ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก รพ.พุทธโสธร) จังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว
            3.6 รับเฉพาะสายสามัญเท่านั้น (ไม่รับผู้สอบเทียบชั้นและจากศูนย์การศึกษานอก โรงเรียน)
            3.7 ต้องศึกษารายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551: มาตรฐานการเรียนรู้ชั้น ม.4 – ม.6 ครบตามเกณฑ์ที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด มีรายละเอียดดังนี้
                 -  กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ต้องเรียนรายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติมทาง วิทยาศาสตร์รวมกันไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต
                 -  กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ต้องเรียนรายวิชาพื้นฐาน และรายวิชาทาง คณิตศาสตร์รวมกันไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต
                 -  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ต้องเรียนรายวิชา พื้นฐานและ รายวิชาเพิ่มเติมภาษาอังกฤษรวมกันไม่น้อยกว่า 9 หน่วยกิต

เกณฑ์การคัดเลือก

            – ขั้นตอนที่ 1 ผู้สมัครต้องมีคะแนน TU-STAR 05 ในครั้งที่ 4/2559 จำนวน 3 วิชา ดังนี้ค่ะ


            – ขั้นตอนที่ 2 นำคะแนนใน ขั้นตอนที่ 1 มาร่วมประมวลผลกับ ผลการประเมินในขั้นตอนที่ 2 ซึ่งก็จะมี
            * การสอบข้อเขียนการตัดสินใจสถานการณ์
            * การสอบบุคลิกภาพ
            * การสอบสัมภาษณ์ ตรวจสุขภาพจิต


เงื่อนไขการสมัคร 
             ผู้สมัคร โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท และ โครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน แล้ว จะไม่สามารถสมัคร โครงการรับตรงและโครงการขยายโอกาสทางการศึกษา ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดังต่อไปนี้
             - โครงการรับตรง
             - โครงการธรรมศาสตร์ช้างเผือก(โครงการนักศึกษาเรียนดีจากชนบทและโครงการนักศึกษาเรียนดีในเขตเมือง)
             - โครงการนักเรียน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
             - โครงการนักศึกษาผู้มีความสามารถดีเด่นในการกีฬา
             - โครงการส่งเสริมนักเรียนเรียนดีภาคกลาง
             - โครงการส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ศึกษาของมูลนิธิสอวน. (ค่าย 2)
             - โครงการคัดเลือกนักเรียนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์โอลิมปิกเข้าศึกษาต่อเป็นกรณีพิเศษ ( สสวท.)
             - โครงการรับนักศึกษากิจกรรมจิตอาสาและประชาธิปไตยเข้าศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
             - โครงการรับนักศึกษาเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง
             - โครงการผลิตทันตแพทยศาสตร์เพิ่มของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ระยะที่ 2 เพื่อการพัฒนาทันตสุขภาวะของประชาชน ปี (2558-2567)

ข้อมูลเพิ่มเติม

           - ดาวน์โหลด ระเบียบการรับสมัคร คลิกที่นี่ 
           - เข้าสู่ ระบบการรับสมัคร คลิกที่นี่
           - การรับสมัครสอบ TU-STAR มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คลิกที่นี่ 

ข้อมูลอ้างอิง
           - Website : คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คลิกที่นี่   
           - Website : การรับเข้าศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คลิกที่นี่  

อยากมีไฟในการอ่านหนังสือต้องทำยังไง ?


          เคยเป็นกันไหมคะ ? อ่านหนังสือได้แปปเดียวก็เบื่อ ก็ขี้เกียจอ่าน หรือแม้กระทั่งหลับไปคาหนังสือเลย ถึงจะรู้อยู่ว่าต้องอ่านเพื่อที่จะได้สอบได้คะแนนดี ๆ สอบติดคณะที่ต้องการ แต่มันก็หน่วง ๆ เหนื่อย ๆ เหมือนไม่มีไฟในการอ่าน ถ้าหากเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่ใช่ไหมละคะ เพราะผลกระทบก็ตกกับตัวน้องเอง เรามาหาทางออกดีกว่าไหม ? สำหรับวิธีที่จะทำให้น้อง ๆ มีไฟในการอ่านหนังสือแม้กำลังเสียใจ พี่ ๆ U-BRAIN TUTOR มีคำแนะนำดังนี้





1. มองเป้าหมายไว้ให้ชัดเจน
     น้อง ๆ ต้องมองเป้าหมายของน้อง ๆ ให้เห็นอย่างชัดเจน เพื่อที่จะได้เดินไปได้ถูกทาง เช่น น้องอยากเป็นหมอมาก ๆ เพราะอยากช่วยเหลือผู้อื่น น้อง ๆ ก็ต้องมองให้เห็นภาพตัวเองที่เป็นหมอกำลังรักษาผู้อื่นอยู่ ซึ่งภาพนี้จะเป็นตัวนำทางและเป็นแรงผลักดันให้น้อง ๆ ไปเองว่าถ้าอยากเป็นหมอ ก็ต้องลุกขึ้นมาอ่านหนังสือตั้งแต่วันนี้สิ ! ถ้าไม่อ่านหนังสือแล้วเป้าหมายที่วางไว้มันจะเป็นจริงได้อย่างไรละ
2. นึกถึงความเสียใจในอดีต
     หลาย ๆ คนคงเคยสอบได้คะแนนไม่ดี (เช่น GAT/PAT รอบที่ผ่านมา) ในเมื่อเรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ และเราก็คงไม่อยากจะรู้สึกเสียใจอย่างนั้นอีก ทำไมไม่ปรับปรุงตัวให้ดีกว่าเดิมละครับ จัดตารางอ่านหนังสืออย่างจริงจัง ตั้งใจอ่านหนังสือให้มากขึ้น พยายามให้มากกว่าคนอื่น และคิดกับตัวเองเสมอว่า “เราต้องไม่พลาดอย่างนั้นอีก !” ก็จะช่วยให้น้อง ๆ ลุกไปอ่านหนังสือได้แล้วนะครับ
3. มองคนรอบตัว
     ความฝันของน้องที่อยากเป็นนู้นเป็นนี่ หลายครั้งก็มีคนแชร์ความฝันด้วย ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ หรือ ญาติ ๆ คนอื่น ดังนั้นพวกเขาเหล่านั้นก็คงจะดีใจไม่น้อยกว่าน้อง ๆ แน่นอนถ้าหากว่าน้องทำความฝันนั้นสำเร็จ แต่ถ้าวันนี้ยังนอน ยังเล่นเกม ยังออกไปเที่ยวเล่น ความฝันไม่มีทางสำเร็จ ดังนั้นหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านเพื่อทำความฝันของตัวเองและคนรอบข้างที่คอยให้กำลังใจให้เป็นจริงเถอะนะ
4. เงยหน้ามองคนที่เหนือกว่าเสมอ
     บางคนเมื่อไม่เป็นอย่างที่หวังก็จะคิดซะว่า “ยังมีอีกตั้งหลายคนที่คะแนนแย่กว่าเรา” ถ้าใครกำลังคิดอย่างนี้ หยุด! เดี๋ยวนี้เลยนะคะ เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่เขาเหนือกว่า และพยายามแข่งขันกับเขาดีกว่านะ เพราะถ้ามัวแต่มองคนที่เขาอ่อนกว่า แล้วเมื่อไหร่เราจะพัฒนาไปได้กันละคะ
5. ไปนั่งอ่านกับเพื่อนที่ขยันอ่านหนังสือ
     วิธีนี้ใช้ได้ผลค่อนข้างดีในน้อง ๆ หลายคน เพราะเมื่อน้องไปนั่งอ่านหนังสือกับเพื่อนที่เขาขยันอ่านหนังสือก็จะเสมือนการบังคับให้น้องต้องอ่านหนังสือไปด้วย เพราะกดดันที่เห็นเพื่อนอ่าน หรือจะเพราะไม่มีใครรบกวนสมาธิทำให้อ่านได้นาน ข้อดีของการมีเพื่อนที่ขยัน ๆ ไปอ่านหนังสือด้วยคือเมื่อน้อง ๆ มีตรงไหนที่ไม่เข้าใจก็สามารถถามเพื่อนเหล่านั้นได้อีกด้วย เพราะเขามักจะมีความรู้มากระดับนึงอยู่แล้วละ !
6. พักสักนิดก่อนกลับมาลุยต่อ
     ในกรณีที่น้องหมดไฟจริง ๆ ทำยังไงก็อ่านหนังสือต่อไม่ไหว ไม่มีสมาธิในการอ่าน คำแนะนำของพี่คือลุกออกจากโต๊ะที่อ่าน แล้วเดินไปทำกิจกรรมอย่างอื่นสักพัก เช่น ดูทีวี ฟังเพลง เดินเล่นนอกบ้าน เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย แล้วค่อยกลับมาตั้งใจอ่านอย่างจริงจัง แต่มีข้อควรระวังคืออย่าไปพักผ่อนเพลินจนไม่กลับมาอ่านหนังสือละ ไม่งั้นก็จะไม่ได้อะไรเลย
     เป็นอย่างไรบ้างคะ กับ 6 คำแนะนำในการจุดไฟในการอ่านหนังสือของน้อง ๆ ให้ลุกโชนขึ้นมา หวังว่าจะช่วยให้น้อง ๆ ที่กำลังท้อแท้ หมดกำลังใจ หมดแรงในการอ่านหนังสือมีกำลังใจที่มากขึ้นนะครับ “เพราะอนาคตของน้อง....ขึ้นอยู่กับตัวน้องเองนะคะ” โชคดีนะคะน้องๆ ที่น่ารักทุกคน 


ข้อมูลอ้างอิง : Top-A tutor